Adventure Time With Covid-19

ใบพลู USA-Year 2019-2020 รุ่น 26/33

ใบพลู USA-Year 2019-2020 รุ่น 26/33

Exchange Student America Year 2019-2020 YES 26/33

Adventure Time With Covid-19

เดือนสิงหาคมของปี 2019 ฉันอยู่ในสถานะนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนขององค์กรต่างประเทศ (EDU) ผ่านโครงการ YES และได้เข้าเรียนที่ Mission Heights Preparatory Public High School ใน Casa Grand รัฐ Arizona America โดยมีครอบครัว Baisch เป็น Host Family และมี roommate เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาจากประเทศ Spain

ในระหว่างที่เรียนหนังสือ และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ด้วยวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน การดำเนินชีวิตจึงต้องปรับเปลี่ยนไปด้วย แต่ด้วยคำสอนและกำลังใจจากแม่ และการเตรียมตัวเตรียมใจตั้งแต่ก่อนเดินทางที่จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง ทำให้ฉันสามารถปรับตัวให้อยู่ได้ในเวลาไม่นานนัก ทุกอย่างดำเนินมาจนเหลือเวลาอีกประมาณ 3 เดือน ก่อนจบโครงการ…

… เกิดการระบาดของเชื้อ Corona-virus (COVID-19) ไปทั่วโลก เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้นกับฉัน และนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนด้วย นั่นคือ องค์กรต่างประเทศ แจ้งว่าต้องการปิดโครงการ และส่งนักเรียนแลกเปลี่ยนกลับประเทศของตนเองทั้งหมดพร้อมทั้งกำหนดวันให้ฉันต้องเดินทางกลับอย่างกระทันหัน ทั้งที่ฉันยังเหลืออีก 3 วิชาที่ต้องเรียนเพื่อให้จบ Grade12 และฉันต้องการ Diploma กลับมายื่นเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทย ทุกอย่างดูฉุกละหุก เร่งรีบ และถูกกดดันให้ต้องเดินทางกลับไทยบนความไม่พร้อมหลากหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจองเที่ยวบิน การต้องถือปฏิบัติตามกฎใหม่ของการเดินทางเข้าประเทศไทยที่ต้องมีเอกสารทางการแพทย์ Fit to Fly และเอกสารรับรองการเดินทางกลับไทยจากสถานฑูตไทย ซึ่ง ณ ขณะนั้นฉันไม่สามารถหาคลินิกที่ไหนใน Casa Grand หรือที่ Phoenix รับตรวจและออกใบรับรอง Fit to Fly ได้เลย โดยที่องค์กรต่างประเทศก็เคร่งครัดให้ฉันต้องเดินทางกลับไทยตามกำหนดการของเขา และถึงแม้ว่า YES จะพยายามหาเที่ยวบิน และประสานงานกับองค์กรต่างประเทศให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคที่ต้องใช้เวลาจัดการก่อน ก็ไม่เป็นผล มันจึงทำให้ฉันต้องเผชิญกับเรื่องต่างๆ ทั้งดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน จากประสบการณ์จริง ชีวิตจริง และไม่ได้มีบรรจุไว้ในตำราเรียนเล่มไหน ๆ มันจึงเป็นความทรงจำที่ฉันอยากบันทึกไว้ ดังต่อไปนี้

Start Journey On March 21, 2020 – Phoenix Sky Harbor International Airport ✈ DFW (Dallas/Fort Worth) เมื่อมาถึงสนามบิน ในวันนั้นสนามบินโล่งมาก ขณะที่ฉัน Check- in เรียบร้อยและเดินเข้าไปที่ด้านในของสนามบิน ตอนนั้นมีผู้โดยสารคือฉันคนเดียว กับเจ้าหน้าที่สนามบิน ทุกอย่างดูดี ฉันดีใจโทรบอกแม่ว่าได้เดินทางแล้ว ถ่ายรูปตั๋วเที่ยวบิน และ Boarding Pass อวดแม่ และส่ง line ให้พี่หน่อย YES ด้วยความดีใจ แม่เตือนว่าตลอดการเดินทางให้ฉันใส่ Mask และสวมถุงมือ (ณ เวลานั้นหาซื้อถุงมือไม่ได้แล้ว แต่พนักงานจากร้านขายกระเป๋าเดินทางใจดีแบ่งให้ฉัน 10 ชิ้น..โชคดีจริง ๆ) แต่ไม่นานความตื่นตกใจก็เกิดขึ้นกับฉันอีก เมื่อผ่านการตรวจตั๋วบิน หนังสือเดินทาง และขึ้นเครื่องแล้ว ขณะกำลังเดินไปหาที่นั่งพบว่าสายการบินที่ YES จองตั๋วให้ ออก Boarding Pass ผิด..ไม่ใช่ชื่อของฉัน เเต่ไปซ้ำกับชื่อของผู้โดยสารคนอื่น..อะไรอ่ะ! แล้วทำไมพนักงานสายการบินให้ฉันผ่านการตรวจตั๋วและหนังสือเดินทางขึ้นมาบนเครื่องได้..ฉัน งง..นะ ฉันไม่เคยเฉลียวใจ และไม่เคยคิดว่าสายการบินจะผิดพลาดแบบนี้

เมื่อฉันไปถึงที่ DFW Dallas/Fort Worth ฉันไปคุยกับพนักงานสายการบิน เพื่อขอให้แก้ไขตั๋วบิน และ Boarding Pass ให้ฉัน เเต่พนักงานคนนั้นไม่ยอมเเก้ไขให้ เขาให้เหตุผลว่า ฉันไม่มีใบรับรองเเพทย์ และใบรับรองการเดินทางจากสถานฑูตไทย ฉันได้แจ้งเขาว่า ณ วันที่ฉันเดินทาง กฎ Fit to Fly ยังไม่มีผลบังคับใช้ และฉันพยายามเจรจาต่อรองอยู่หลายครั้ง เเต่พนักงานคนนั้นก็ไม่ยอม ฉันได้โทรไปปรึกษา YES ให้ช่วยเจรจาเกี่ยวกับเอกสารที่สายการบินต้องการ เเต่สายการบินก็ยังไม่ยอมอยู่ดี จนกระทั่ง YES ให้เบอร์โทรศัพท์ของสถานกงสุลไทย ณ กรุงวอชิงตัน แก่ฉัน ฉันได้โทรหาพี่ปอนด์ (สำนักกงสุลไทย ณ กรุงวอชิงตัน) และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พี่ปอนด์ (สำนักกงสุลไทย) ขอเจรจากับสายการบินอีกครั้ง เเต่สายการบินยังยืนยันไม่ยอมให้ฉันเดินทางต่อ

ในระหว่างที่พยายามเจรจาก็พบว่ามีเพื่อนคนไทยอีกหลายคนที่ติดค้างในสนามบินเพราะเดินทางต่อไม่ได้ ในระหว่างนั้น ฉันเครียดมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้กลับไทย ฉันเดินไปรอบ ๆ สนามบิน และขณะที่ฉันนั่งรถไฟฟ้าของสนามบินเพื่อไปรับกระเป๋าจาก Terminal:A ไปที่ Terminal:D ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ฉันได้รับทราบจากพี่ปอนด์ (สำนักกงสุลไทย) ว่ามีพี่ผู้หญิงซึ่งเป็นคนไทยอีกคนหนึ่ง (พี่โย) ติดค้างใน DFW Dallas/Fort Worth เดินทางต่อไม่ได้เช่นเดียวกับฉัน และให้ไปเจอกัน ณ จุดที่พี่ปอนด์ (สำนักกงสุลไทย) ระบุให้ จากนั้นพี่ปอนด์ (สำนักกงสุลไทย) ได้ประสานงานไปที่สมาคมไทยใน Texas มีคุณลุงตุ้มและคุณป้าติ๋ม มารับฉันกับพี่โยไปหาหมอเพื่อขอใบรับรองเเพทย์ พาไปซื้ออาหาร เเละผลไม้ที่ Supermarket (ตั้งแต่มาถึง DFW ฉันยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องหลายชั่วโมงแล้ว เพราะกินไม่ลง) รวมทั้งพาไปหาที่พัก (Holiday Inn Dallas-Richardson) ในระหว่างที่ยังไม่รู้ว่าจะได้เดินทางเมื่อไร และอย่างไร

March 21-24, 2020 ในระหว่างที่ฉันอยู่ใน Texas คุณลุงตุ้มและคุณป้าติ๋ม ให้ความช่วยเหลือดูแล และอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นติดตามการออกใบรับรองการเดินทางจากสถานกงสุลไทย พาฉันและพี่โยกลับไปที่สนามบินเพื่อให้สายการบินเปลี่ยนเที่ยวบิน และออก Boarding Pass ใหม่ (ฉันได้เที่ยวบินในวันที่ March 24,2020) ดูแลเรื่องอาหารการกินของฉันและพี่โย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารไทยมาให้ฉันและพี่โยที่โรงแรม หรือไม่ก็พาไปที่ร้านอาหารไทย

March 24, 2020 ตอนเช้าของวันนี้ คุณลุงตุ้มขับรถมารับฉันและพี่โยไปส่งที่สนามบิน ฉันเดินไป Check-in และก็มีปัญหาเกิดขึ้นอีกครั้งนึงจนได้ เพราะใบรับรองเเพทย์ไม่มีคำว่า Fit to Fly ทางสายการบินไม่ยินยอมอีก คุณลุงตุ้มช่วยเจรจาก็ไม่เป็นผล ซึ่งในตอนนั้นเหลือเวลาที่จะขึ้นต้องไปขึ้นเครื่องอีกเเค่ 2 ชั่วโมง คุณลุงตุ้มตัดสินใจพาฉันกับพี่โยซิ่งกลับไปที่คลินิกเพื่อให้หมอเขียนใบรับรองเเพทย์ใหม่ ให้มีคำว่า Fit to Fly และพาฉันกับพี่โยกลับไปที่สนามบิน DFW Dallas/Fort Worth ได้ทันเวลาขึ้นเครื่องอย่างฉิวเฉียด ฉันจึงได้เดินทางจาก DFW Dallas/Fort Worth ✈ NRT Tokyo

หลังจากที่เดินทางไปถึงสนามบิน NRT Tokyo เป็นจุด Transit กลับไทย ฉันโทรบอกแม่ว่า “รออีกแป๊บนะ จะได้เจอกันแล้ว” แม่บอกว่า “อย่าประมาท อย่าเพิ่งดีใจมากนัก เพราะไม่รู้ว่าจะมีอุปสรรคอะไรอีก” ที่ NRT Tokyo ฉันเจอเเต่เพื่อนร่วมเดินทางที่เป็นคนไทย ก่อนขึ้นเครื่องบินก็จะมีพนักงานสายการบินมาขอตรวจใบรับรองเเพทย์ เเละใบรับรองการเดินทางของสถานฑูตไทย หลังจากนี้อีกประมาณ 7 ชั่วโมง ฉันจะได้เจอกับแม่แล้ว

March 25, 2020 – เวลา 23.17 น. (เวลาประเทศไทย) ฉันก็มาถึง Suvarnabhumi Airport_ (เย้… ฉันได้กลับบ้าน หาแม่แล้ว) เมื่อมาถึง Suvarnabhumi ยังต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองก่อน ดังนี้

  • จุดที่1 – ลงทะเบียนการใช้ App AOT
  • จุดที่2 – ตรวจการลงทะเบียน App AOT
  • จุดที่3 – วัดไข้ ตรวจใบรับรองการเดินทางของสถานฑูตไทย และ ใบรับรองแพทย์ (ใช้ Passport)
  • จุดที่4 – วัดไข้ กรอกใบตรวจคนเข้าเมือง สถานที่จะไปกักตัว 14 วัน
  • จุดที่5 – ตม. ตรวจละเอียด ใช้เวลานาน

หลังจากผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ฉันไปรับกระเป๋า รอนานมากอย่างอดทนพร้อมกับความหิว เเละแล้วก็ไม่ได้รับกระเป๋า เพราะกระเป๋ายังติดอยู่ที่ DFW Dallas/Fort Worth เลยต้องไปทำเอกสารลงทะเบียนการรับกระเป๋าที่เคาน์เตอร์การบินไทย และอีก 3 วันต่อมา การบินไทยได้ทำการจัดส่งกระเป๋ามาให้ฉันที่บ้าน

April 17, 2020 ฉันผ่านการครบกำหนดกักตัว 14 วันแล้วและเป็นวันที่ฉันได้ทบทวนเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า “ในความโชคร้าย ฉันยังมีความโชคดี” ฉันจึงเขียนบันทึกฉบับนี้ จากประสบการณ์มากมายที่ไม่มีในตำราเรียน ฉันโชคดีที่ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ใจดี มีเมตตาอย่างคุณลุงตุ้มและคุณป้าติ๋ม (สมาคมไทยในเท็กซัส) รวมทั้งพี่ปอนด์ (สถานกงสุลไทย ณ กรุงวอชิงตัน) ที่ให้ความช่วยเหลือยามที่ฉันเคว้งคว้าง พบกับความยากลำบาก ได้พบเจอพี่โยเพื่อนร่วมชะตากรรมร่วมกันที่ Texas ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์ระบาดของ COVID-19 ฉันคงไม่ได้เจอพวกเขา

คุณลุงตุ้มและคุณป้าติ๋ม (สมาคนไทยในเท็กซัส) และพี่โย

คุณลุงตุ้มและคุณป้าติ๋ม (สมาคนไทยในเท็กซัส) และพี่โย

ฉันได้รับความห่วงใย และความพยายามทุกทางที่จะช่วยเหลือฉันจากป้าแหม่ม (Kanpiro Vanicho), พี่หน่อย พี่แซม และพี่ ๆ ทุกคนจาก YES Agent ฉันได้กลับบ้าน..ได้กลับมาอยู่กับคนที่ฉันรักและเขารักฉันอย่างแม่กบ คนที่คอยบอกให้ฉันเข้มแข็ง และตั้งสติกับทุกปัญหา คนที่บอกกับฉันว่า “ทุกเหตุการณ์ ทุกปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น เมื่อผ่านมันมาได้ ต่อไปวันข้างหน้าไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอุปสรรคใดๆ มันจะเป็นเรื่องชิลล์ๆ สำหรับฉัน” ฉันไม่แน่ใจว่าจะเป็นตามที่แม่บอกหรือเปล่า ฉันรู้แค่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉันในครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่ฉันไม่ลืมมันเลย ..ตลอดไป

ปัจจุบัน ฉันได้กลับไปเรียนหนังสือที่เหลืออีก 3 วิชาทาง online กับ Mission Heights Preparatory Public High School หลับบ้าง เรียนบ้าง ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงประมาณ ตี 5 ของวันถัดไป..

ขอบคุณทุกคน..จากใจจริง ๆ ค่ะ
Jeff & Sara Baisch (Host Family)
Kanpirom Vanicho (Aunt)
Pann Sribhen & Pacharee Sribhen (Thai Texas Association)
Pound Saengcharnchai (Royal Thai Embassy, Washington DC)
YES Thailand

image003
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]