Skip to content
1280x425_20221018-faq

สมัคร / Apply

นักเรียนแลกเปลี่ยน รุ่น 30/38

ระเบียบการทุนแลกเปลี่ยน

เดินทางมกราคม – กันยายน 2567

ผลคะแนน TYES-2022

สอบวันที่ 10 กรกฎาคม 2565

เข้าใจโครงการแลกเปลี่ยน

โครงการแลกเปลี่ยนเป็นโครงการศึกษาภาษาและวัฒนธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจอันดีงามระหว่างประเทศ และประชาชนพลเมืองในประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นโครงการที่ผ่านการรับรองจากภาครัฐในต่างประเทศโดยนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือก ให้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนหรือจ่ายค่าธรรมเนียมน้อยกว่าปกตินักเรียนจะได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น (Grade 10-12) ทั้งนี้นักเรียนอาจถูกลดชั้นได้โดยไม่จำเป็นว่านักเรียนจะต้องได้เข้าเรียนในชั้นถัดไป แม้ว่านักเรียนจะเรียนจบชั้นใดก็ตามมาก่อนแล้ว

การเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนฯ นักเรียนต้องมีความมุ่งมั่นที่จะไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับครอบครัวอาสาสมัครอย่างจริงใจอีกทั้งเวลาที่เข้าร่วมโครงการก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างดีที่สุด และพัฒนาการต่างๆ ต้องเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หากนักเรียนประพฤติผิดระเบียบ หรือมีผลการเรียนตกตํ่ามากอาจถูกคัดชื่อออกจากโครงการ และ ส่งตัวกลับ

ในขณะที่นักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ จะได้พักอยู่กับครอบครัวอาสาสมัครซึ่งจะมีหน้าที่เป็นผู้ปกครองตลอดระยะเวลาในโครงการฯ ดูแลให้ที่พักแก่นักเรียนโดยนักเรียนร่วมรับประทานอาหารด้วยกันโดยปกติในมื้อเช้าและเย็น ซึ่งครอบครัวอาสาสมัครมิได้รับค่าใช้จ่ายใดๆ และยินดีรับนักเรียนเข้าไปอยู่ด้วยเสมือนนักเรียนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว แต่สำหรับบางประเทศครอบครัวอาสาสมัครอาจจะได้รับค่าตอบแทนบ้างเล็กน้อยเป็นนํ้าใจจากองค์กรในต่างประเทศแต่ไม่ถือว่าเป็นค่าจ้างแต่อย่างใด โดยนักเรียนเองก็มีหน้าที่ช่วยเหลือครอบครัวอาสาสมัครเรื่องในบ้าน เช่นการช่วยล้างจาน ทำความสะอาดบ้านฯลฯ ปฏิบัติเฉกเช่นคนอื่นๆ ในครอบครัว อนึ่งนักเรียนจะไม่สามารถเลือกครอบครัวอาสาสมัครได้ ในทางตรงกันข้าม ครอบครัวอาสาสมัคร และโรงเรียนจะเป็นผู้เลือกนักเรียนเอง โดยปกติโรงเรียนที่รับนักเรียนมักจะอยู่ในเมืองเล็กๆ มากกว่าเมืองใหญ่ การอาศัยอยู่ด้วยกันในลักษณะดังกล่าว ความสัมพันธ์จะเป็นไปโดยธรรมชาติต่างฝ่ายค่อยเรียนรู้ซึ่งกันและกันนักเรียนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและมีหน้าที่พึงต้องปฏิบัติ และเคารพต่อครอบครัวที่อยู่ด้วยอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

More

การดูแลนักเรียนในระหว่างเข้าร่วมโครงการ

หากนักเรียนมีปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดอย่ามองข้ามแม้เรื่องเล็กๆ ขอให้นักเรียนได้ปรึกษากับครอบครัวอาสาสมัคร และ / หรือแจ้งให้ที่ปรึกษาหรือผู้ดูแลท้องถิ่นในพื้นที่รับทราบ (Community representative, Community Counselor, หรือ Area representative) โดยให้พูดอย่างเปิดเผย ให้เหตุผลสนับสนุนอย่างชัดเจน ซึ่งที่ปรึกษาจะเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือ และแนะนำนักเรียนทุกเรื่องจนกระทั่งปัญหาต่างๆคลี่คลาย ทั้งนี้การแก้ปัญหาใดๆ นักเรียนและผู้ปกครองต้องให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ผู้ปกครองจะไม่แทรกแซงการทำงานขององค์กรเช่น การให้ญาติในต่างประเทศเข้าไปติดต่อกับองค์กรต่างประเทศหรือการพยายามแก้ปัญหาเองโดยการติดต่อกับครอบครัวอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศเอง ซึ่งจะทำไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนขององค์กรและอยู่ภายใต้กรอบ และกฎระเบียบที่สามารถตอบสนองได้เท่านั้น เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ทุกฝ่ายในการทำงานโดยทุกฝ่ายต่างมีวัตถุประสงค์เดียวกันเพื่อช่วยเหลือนักเรียนให้ดีที่สุดดังนั้น นักเรียนและผู้ปกครองต้องเข้าใจและมีความอดทนต่อระยะเวลาที่ดำเนินการจึงจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ลุล่วง

ปัญหาด้านความคาดหวังกับการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ

นักเรียนและผู้ปกครองหลายท่านอาจจะมีความคาดหวังที่สูงเกี่ยวกับการได้มีโอกาสใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วประเทศต่างๆ เหล่านั้นมีความแตกต่างด้านภูมิอากาศสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมภาษา สังคม บุคคล เชื้อชาติศาสนา กฎระเบียบข้อบังคับ ฯลฯ การจิตนาการ วาดภาพการใช้ชีวิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างสวยงาม ทั้งการเรียนการท่องเที่ยว แต่สิ่งที่นักเรียนไม่ควรลืม และต้องปฎิบัติให้ได้ก็คือการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ที่พร้อมจะเรียนรู้ สิ่งใดที่นักเรียนควรทำและไม่ควรทำอย่างไร ซึ่งในความความเป็นจริงอาจจะไม่เป็นไปตามความคิด ความคาดหวังก่อนเดินทาง นักเรียนควรเข้าใจในความเป็นจริงที่ว่า “บุคคลทุกคนและทุกสถานที่ทุกแห่งหนย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ไม่มีบุคคลหรือสถานที่ใดมีความสมบูรณ์แบบในตัวเอง” ดังนั้นนักเรียนก็ไม่ควรตั้งความหวังแต่ควรที่จะตั้งมั่นปฏิบัติหน้าที่การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ให้ดีที่สุด

More

ระยะเวลาโครงการและกำหนดการเดินทางเมื่อไร ?

1 ปีการศึกษา (ประมาณ 8 – 10 เดือน) เริ่มเดินทางในเดือนเมษายน, กรกฎาคม ~ ตุลาคมของปีถัดไป (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเทศที่เข้าร่วมโครงการ)

ไปอยู่กับใคร ? เรียนที่ไหน ? เลือกได้หรือไม่ ?

นักเรียนจะไปพักกับครอบครัวอุปถัมภ์ (HOST FAMILY) และเรียนในโรงเรียนรัฐบาล ทั้งนี้นักเรียนไม่สามารถเลือกครอบครัว โรงเรียนหรือรัฐได้

YES มีเอกสาร Application ให้นักเรียนกรอกประวัติส่วนตัวอย่างละเอียดแสดงถึงความเป็นอยู่ของนักเรียนกับครอบครัว กิจกรรมที่ชอบ พร้อมนำเสนอภาพกิจกรรมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในโรงเรียน เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังองค์กรต่างประเทศ เพื่อให้ครอบครัวอุปถัมภ์ที่ผ่านการคัดเลือกแล้วเป็นผู้เลือกนักเรียนและรับนักเรียนเข้าไปอยู่ด้วยระยะเวลา 1 ปีการศึกษา (แต่ละครอบครัวจะมีเหตุผลเลือกนักเรียนแตกต่างกัน เช่น บางครอบครัวอาจต้องการนัักเรียนที่เรียนเก่งมากๆ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกๆ หรือบางครอบครัวอาจต้องการนักเรียนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบทำกิจกรรมเป็นต้น) ดังนั้นการทำเอกสาร Application เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่จะบ่งบอกตัวตนของนักเรียน และรูปถ่ายสำหรับติด Application ควรเป็นรูปถ่ายยิ้ม เมื่อได้รับการเลือกจากครอบครัวอุปถัมภ์แล้ว นักเรียนจะได้เรียนในโรงเรียนของชุมชนนั้น ๆ เพื่อสะดวกในการดูแล และเดินทางไปเรียน

**ครอบครัวอาสาสมัครรับนักเรียนเข้าพักโดยไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ แต่ยินดีดูแลนักเรียนด้วยความเต็มใจ เพื่อที่ครอบครัวจะได้เรียนรู้ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่แตกต่างให้กับสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นนักเรียนควรให้เกียรติในความเอื้อเฟื้อของครอบครัวอาสาสมัคร และสำหรับบางประเทศครอบครัวอาสาสมัคร อาจจะได้รับค่าตอบแทนบ้างเล็กน้อยเป็นนํ้าใจจากองค์กรในต่างประเทศแต่ไม่ถือว่าเป็น ค่าจ้างแต่อย่างใด**

แนวโน้มการตอบรับจากครอบครัวอุปถัมภ์ ?

สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนนั้น บางประเทศไม่สามารถจะตอบรับนักเรียนได้ทุกคน เพราะแต่ละโรงเรียนและชุมชนมีเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนที่แตกต่างกัน รวมถึงสภาวะเศษฐกิจ ณ ขณะนั้นๆ จึงอาจทำให้รับนักเรียนได้ไม่ทั้งหมด

โฮส / โฮมสเตย์ ?

ในบางประเทศเช่นนิวซีแลนด์ โฮสที่ตอบรับส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบโฮมสเตย์ มีการจัดห้องพักให้อย่างเป็นสัดส่วน มีการจัดหาอาหารให้ และมีกิจกรรมในครอบครัวปกติเช่นเดียวกับโฮสที่เป็นอาสาสมัคร การพักอาศัยกับโฮมสเตย์นั้น ไม่ใช่การพักในโรงแรม นักเรียนจะต้องดูแลความสะอาด และช่วยเหลือกิจกรรมภายในบ้านตามสมควร

การปรับตัวในการเข้าเรียนที่โรงเรียนในต่างประเทศ ?

ในช่วงแรก ๆ ที่ไปเรียนอาจจะมีปัญหาในด้านภาษาการสื่อสาร เนื่องจากความไม่คุ้นเคย ดังนั้นนักเรียนจะต้องฝึกตนเองในด้านการฟังเพิ่มเติม เพื่อให้ง่ายต่อการปรับตัวในช่วงแรก ๆ ก่อนการเดินทาง YES ได้มีการแนะนำและจัดกิจกรรม English Camp เพื่อเสริมภาษาเพิ่มเติมจากที่เรียนมา และนักเรียนควรฝึกฝนด้วยตนเองด้วย และสามารถติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาในต่างประเทศเพื่อวางแผนการเรียนจะได้นำมาประยุกต์กับการเรียนในประเทศไทย

มีปัญหากับครอบครัว จะขอย้ายได้หรือไม่ ?

ครอบครัวที่ได้จัดให้ถือว่าเหมาะสมแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือการตัดสินใจขององค์กรในต่างประเทศเป็นสูงสุด ยกเว้นทางองค์กรในต่างประเทศได้พิจารณาแล้วมีเหตุสมควรให้พิจารณาสรรหาใหม่ได้ กรณีเป็นเคสปกติ จะต้องผ่านขั้นตอนดังนี้ 1) วิเคราะห์ปัญหาระหว่างโฮสและนักเรียน 2) YES ได้รับแจ้งถึงปัญหาและประสานผู้ปกครอง 3) นักเรียนปรับตัวในช่วงทดลอง “TRIAL PERIOD” ปกติประมาณ 1-3 เดือนแล้วแต่กรณี 4) สรุปผลแนวทางแก้ไขต่อไป เนื่องจากโฮสและโรงเรียนจะเป็นผู้เลือกนักเรียน ดังนั้นปัจจัยดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถกำหนด และร้องขอได้ไม่ว่ากรณีใดๆ

  1. 85%ของโรงเรียนและโฮสทั้งหมดจะเป็นเมืองชนบทเพราะในชนบทจะเปิดโอกาสรับนักเรียนแลกเปลี่ยนมากกว่าและย่อมจะมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่มากกว่าเมืองใหญ่ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการแลกเปลี่ยนด้วย
  2. โฮสอาจเป็นชาวอเมริกันผิวดำ หรือชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเอเชียหรืออื่นๆ เพราะเรื่องเชื้อชาติ/สีผิวในต่างประเทศจะถือเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เท่าเทียมกันตราบใดที่โฮสเป็น CITIZEN ของประเทศนั้นๆ และผ่านการตรวจสอบจากองค์กรในต่างประเทศแล้ว ก็ถือเป็นครอบครัวที่มีคุณสมบัติเป็นโฮสทุกประการ
  3. สภาพภูมิอากาศในต่างประเทศย่อมแตกต่างจากประเทศไทยอย่างมาก ดังนั้น นักเรียนควรเตรียมตัวที่จะไปอยู่จริงๆ มิใช่ไปแล้วอยู่ไม่ได้ เช่น อากาศหนาวมาก อากาศร้อนมาก ฯลฯ ไม่สามารถปรับตัวได้
  4. สภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น เป็นเมืองภูเขา เมืองทะเล ในการเดินทางอาจจะต้องขึ้นเขา ลงเรือ ถือเป็นเรื่องปกติดังนั้นการร้องขอเปลี่ยนโฮสด้วยปัจจัยข้างต้นให้ถือว่าเป็นความต้องการส่วนตัว และจะไม่สามารถเปลี่ยนโฮสได้

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวสำหรับใช้ชีวิตในต่างประเทศ ?

ควรเตรียมไปสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว ในบางประเทศอาจมีค่าชุดนักเรียน ค่าอุปกรณ์การศึกษา / ค่ากิจกรรมพิเศษ ตามที่เกิดขึ้นจริง ไม่ควรให้นักเรียนพกเงินติดตัวไปในวันเดินทางเกิน $500 ผู้ปกครองควรส่งเงินให้นักเรียนมีติดตัวไว้ในแต่ละเดือนประมาณ $300 – $350 โดยอาจทำบัตรเดบิต / บัตรเครดิต ให้กับนักเรียน และผู้ปกครองชำระเงินผ่านธนาคารผู้ออกบัตรที่ประเทศไทย ก็จะเป็นการปลอดภัย และสะดวกแก่นักเรียน

การถูกส่งตัวกลับก่อนกำหนด

องค์กรต่างประเทศสามารถส่งตัวผู้เข้าร่วมโครงการ ณ ประเทศนั้นๆ กลับก่อนครบกำหนดได้ โดยสาเหตุต่างๆ ต่อไปนี้

  1. ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ YES และองค์กรต่างประเทศ 
  2. ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับครอบครัวอุปถัมภ์ และสภาพแวดล้อมในชุมชนที่อยู่อาศัย 
  3. ไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนเป็นเหตุให้โรงเรียน และครอบครัวอุปถัมภ์ปฎิเสธการรับอุปถัมภ์นักเรียน
  4. มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต มีภาวะที่อาจทำร้ายตัวเองหรือทำร้ายตัวเอง (โรคซึมเศร้า) ไม่สามารถอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เคร่งครัด และไม่มีความอดทนต่อความกดดันต่างๆ ได้
  5. มีปัญหาด้านบุคลิกภาพอย่างมากในการแสดงความมั่นใจที่จะอยู่ห่างจากบิดา-มารดา
  6. เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคประจำตัวร้ายแรง
  7. เสพสิ่งเสพติด หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ หรือมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดไว้ในครอบครอง จะถูกส่งตัวกลับทันทีที่องค์กรในต่างประเทศทราบ และไม่สามารถเรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ คืนได้
  8. ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ (เบื้องต้น) ได้ และไม่มีพัฒนาการเรียนรู้ ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสือสาร เพื่อใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
  9. ทำ/แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในสถานะที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจขององค์กรต่างประเทศ และ YES
  10. มี/ครอบครองภาพหรือวัตถุลามกอนาจาร หรือวัตถุสิ่งของเพื่อสนองความต้องการทางเพศ
  11. ทำผิดกฎหมายของประเทศอุปถัมภ์